รู้จักระเบิดไฮโดรเจน อาวุธทำลายล้างที่เกาหลีเหนืออ้างว่ามีแล้ว!!

  • 11 May 2020
  • 1920
หางาน,สมัครงาน,งาน,รู้จักระเบิดไฮโดรเจน อาวุธทำลายล้างที่เกาหลีเหนืออ้างว่ามีแล้ว!!

สื่อในเกาหลีใต้รายงานข่าวการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนของเกาหลีเหนือ (ภาพ: AFP)

แต่เมื่อวันพุธที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทำให้ทั้งโลกตกตะลึง เมื่อพวกเขาประกาศว่า ได้ดำเนินการและประสบความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนที่ฐานใต้ดินของประเทศแล้ว เรียกเสียงประณามจากหลายประเทศแม้แต่มหามิตรอย่างจีนและรัสเซีย ขณะที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลถึงศักยภาพทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

แต่ทำไมข่าวการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนของเกาหลีเหนือถึงสร้างความแตกตื่นไปทั่วโลกขนาดนี้ ทั้งที่เป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลเปียงยางเคยทดสอบระเบิดปรมาณูมาแล้วหลายครั้งในอดีต

 

ผู้สื่อข่าวหญิงของเกาหลีเหนือ ประกาศข่าวความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน (ภาพ: AP)

ระเบิดไฮโดรเจนกับระเบิดปรมาณูต่างกันอย่างไร?

ระเบิดไฮโดรเจน (เอช-บอมบ์) หรือ ระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ และระเบิดปรมาณู หรือ อะตอมิกบอมบ์ (เอ-บอมบ์) มีความแตกต่างกันทั้งในด้านหลักการทำงานและพลังทำลาย โดยระเบิดปรมาณูใช้แร่พลูโตเนียม หรือใช้ ยูเรเนียม ที่ผ่านการเสริมสมรรถภาพในระดับสูงเป็นเชื้อเพลิง พลังระเบิดเกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น ซึ่งจะแยกพลูโตเนียมหรือยูเรเนียมเป็นอะตอมที่เล็กลง และเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ปลดปล่อยพลังระเบิดมหาศาลออกมา

ส่วนระเบิดไฮโดรเจน มีความซับซ้อนกว่า เหมือนเป็นระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลูกในลูกเดียว เพราะแรงระเบิดของ เอช-บอมบ์ เกิดจากปฏิกิริยาฟิวชั่น ซึ่งต้องใช้ความร้อนมหาศาลในการเริ่มต้นกระบวนการ ให้ไอโซโทปหนักของไฮโดรเจนชนกันเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ จึงจำเป็นต้องใช้ระเบิดปรมาณูเป็นตัวจุดระเบิด ซึ่งการระเบิดจะเกิดขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน

ระเบิดไฮโดรเจนยังมีพลังทำลายมหาศาลกว่าระเบิดปรมาณูมากมาย ตัวอย่างเช่น ระเบิดปรมาณู 'ลิตเติลบอย' ที่สหรัฐฯใช้โจมตีเมืองฮิโรชิมา ของญี่ปุ่น เมื่อปี 1945 มีพลังทำลายเทียบเท่าระเบิด ทีเอ็นที หนัก 15,000 ตัน (15 กิโลตันทีเอ็นที) ขณะที่เมื่อครั้งสหรัฐฯ ทดสอบเทอร์โมนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกของโลกในปี 1952 สร้างพลังทำลายถึง 10.4 ล้านตันทีเอ็นที หรือสูงกว่าระเบิดที่ฮิโรชิมา 700 เท่า

หากเกาหลีเหนือทดสอบระเบิดไฮโดรเจนจริงตามที่กล่าวอ้าง พวกเขาก็จะเข้าไปร่วมกลุ่มประเทศเพียงหยิบมือที่เคยประสบความสำเร็จในการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์อานุภาพสูงชนิดนี้มาก่อน และอาจกลายเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยังทดสอบอาวุธชนิดนี้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

 

คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ลงนามคำสั่งให้ทดสอบระเบิดไฮโดรเจน (ภาพ: REUTERS)

ประเทศไหนมีระเบิดไฮโดรเจนบ้าง?

ระเบิดไฮโดรเจนไม่เคยถูกนำไปใช้ในสงครามมาก่อน และจากข้อมูลเท่าที่มีการเปิดเผยจนถึงตอนนี้ ประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, รัสเซีย (เมื่อครั้งเป็นสหภาพโซเวียต) และจีน เป็นประเทศที่เคยทำการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนมาแล้วในอดีต

สหรัฐฯ เป็นชาติแรกที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน เกิดขึ้นเมื่อ 1 พ.ย. 1952 ระเบิดชื่อว่า 'ไอวี ไมค์' ถูกยิงไปที่เกาะเอลูเกลับ ในเกาะปะการัง เอเนเวทัค ของหมู่เกาะมาร์แชลในมหาสมุทรแปซิฟิก สร้างแรงระเบิดถึง 10.4 ล้านตันทีเอ็นที หรือ 450 เท่าของระเบิดปรมาณูที่สหรัฐฯ ใช้โจมตีเมืองนางาซากิ ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย ไอวี ไมค์ หรือฉายาว่า 'ไส้กรอก' ลูกนี้ใช้ระเบิดปฏิกิริยาฟิสชั่นขนาดใหญ่พิเศษ เป็นตัวจุดระเบิด และใช้ ดิวทีเรียม หรือ ไฮโดรเจนหนัก ซึ่งถูกคงสถานะเป็นของเหลวด้วยเครื่องแช่แข็งเป็นเชื้อเพลิงฟิวชั่น

ในเวลาต่อมา สหรัฐฯ เปลี่ยนไปใช้ ลิเทียม ดิวทีไรด์ แข็ง แทน ดิวทีเรียมเหลว เนื่องจากพบว่าไม่มีประสิทธิภาพในการใช้งานจริง และในปี 1954 ได้ยิงทดสอบระเบิด 'แคสเซิล บราโว' หรือฉายาว่า 'กุ้ง' สร้างแรงระเบิดถึง 15 ล้านตันทีเอ็นที ถือเป็นระเบิดรุนแรงที่สุดที่สหรัฐฯ เคยทดสอบ

อย่างไรก็ตาม ระเบิดนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลกกลับเป็นของโซเวียต โดยระเบิดไฮโดรเจนลูกนี้มีชื่อว่า 'เอเอ็น602' หรือ 'ซาร์ บอมบา' ถูกยิงทดสอบที่หมู่เกาะ โนวายา ซิมลา ในมหาสมุทรอาร์ติก ทางเหนือของรัสเซียเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 1961 สร้างแรงระเบิดมหาศาลถึง 50 ล้านตันทีเอ็นที โดยพลังงานเกือบ 97% ของระเบิดลูกนี้มาจากปฏิกิริยาฟิวชั่น

 

ควันรูปดอกเห็ดจากการระเบิดของ ระเบิดไฮโดรเจน 'ไอวี ไมค์' ของสหรัฐฯ โดยการระเบิดทำให้เกิดลูกไฟกว้าง 3 ไมล์ ควันพุ่งขึ้นฟ้าสูง 57,000 ฟุตในเวลา 90 วินาที และสูง 135,000 ฟุต หรือทะลุชั้นสตราโตสเฟียภายในเวลา 5 นาที ทำลายเกาะเอลูเกลับจนสิ้นซาก และทิ้งหลุมระเบิดกว้าง 6,240 ฟุต และลึก 164 ฟุต ไว้ใต้ทะเล (ภาพ: AFP)

ขณะที่สหราชอาณาจักร ทดสอบระเบิดไฮโดรเจนลูกแรกเมื่อ 15 พ.ค. 1957 โดยยิงระเบิด 'กรีน แกรนิต' ไปที่เกาะมัลเดน บริเวณเกาะคิริสมาส ในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่สร้างแรงระเบิดเพียง 300,000 ตันทีเอ็นทีเท่านั้น ต่อมายูเคเริ่มหันมาใช้ระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์แบบ 2 ตอนที่มีตัวจุดระเบิดรุนแรง และสามารถสร้างเอช-บอมบ์ ความรุนแรงระดับล้านตันทีเอ็นที และรุนแรงที่สุดที่ 3 ล้านตันทีเอ็นทีในการทดสอบเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 1958

สหรัฐฯ, ยูเค และโซเวียต ทำข้อตกลงยุติการทดลองอาวุธนิวเคลียร์บนพื้นดินในปี 1963 และโซเวียตทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินครั้งสุดท้ายในปี 1990 และไม่ได้ทำการทดสอบอีกเลยแม้กลายเป็นรัสเซียแล้ว ส่วนยูเคทดสอบครั้งสุดท้ายในปี 1991 สหรัฐฯ ในปี 1992 ฝรั่งเศสและจีนในปี 1996

ประเทศอื่นๆ ที่มีรายงานว่าเคยทดสอบระเบิดไฮโดรเจนคือ อินเดีย โดยเคยทดสอบเมื่อปี 1998 แต่สร้างแรงระเบิดเพียงไม่เกิน 60,000 ตันทีเอ็นที จึงเชื่อว่าการทดสอบล้มเหลว ขณะที่อิสราเอลถูกกล่าวหาว่ามีเอช-บอมบ์ในครอบครอง แต่ไม่เคยมีรายงานว่าได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใดๆ ส่วนปากีสถานมีรายงานว่าเคยทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน 6 ครั้ง จนถึงปี 1998 และในปี 2000 นักวิทยาศาสตร์ของปากีสถานก็ออกมาอ้างว่า พวกเขามีขีดความสามารถในการสร้างระเบิดไฮโดรเจน โดยต้องใช้เวลาศึกษาและพัฒนาอีก 3-6 ปี แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานการทดสอบระเบิดชนิดนี้

 

แบบจำลงระเบิด 'ซาร์ บอมบา' ระเบิดไฮโดรเจนของโซเวียต และระเบิดที่รุนแรงที่สุดในโลก (ภาพ: AFP)

โลกกังขา เกาหลีเหนือทดสอบเอช-บอมบ์จริงหรือ?

นอกจากเสียงประณามแล้ว ยังมีการตั้งคำถามว่า เกาหลีเหนือทดสอบระเบิดไฮโดรเจนจริงหรือไม่ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าไม่ใช่ เนื่องจาก แรงสั่นสะเทือนที่หน่วยงานติดตามแผ่นดินไหวในหลายประเทศเช่น จีน, ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ตรวจวัดได้มีความรุนแรงเพียง 5.1 เท่ากับแรงสั่นสะเทือนเมื่อครั้งรัฐบาลเปียงยางทดสอบระเบิดปรมาณูเมื่อปี 2013 ทั้งที่เอช-บอมบ์ควรมีความรุนแรงกว่า

นาย บรูซ เบนเน็ตต์ จากองค์กร 'รีเสิร์ช แอนด์ เดเวลอปเมนต์ คอร์เปอเรชัน' (RAND Corporation) หน่วยงานเอ็นจีโอซึ่งทำงานวิจัยและวิเคราะห์นโยบายให้กับกองทัพสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่เชื่อว่าเกาหลีเหนือทดสอบระเบิดไฮโดรเจน โดยระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยังประสบปัญหาในเข้าใจพื้นฐานอาวุธปฏิกิริยาฟิสชั่น ดังนั้นจึงเป็นการก้าวกระโดดเกินไป ที่พวกเขาจะสามารถสร้างระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ที่ซับซ้อนกว่าได้

 

เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.1 ณ จุดที่เกาหลีเหนือทดสอบระเบิดไฮโดรเจนที่ฐานใต้ดิน (ภาพ: AFP)

ขณะที่องค์กร นอร์ซาร์ หน่วยงานติดตามการทดสอบทางนิวเคลียร์ของนอร์เวย์ ระบุว่า การทดสอบครั้งล่าสุดของเกาหลีเหลือเกิดขึ้นใต้ดินลึกกว่าครั้งก่อน จึงเป็นเรื่องจากในการสืบจับกัมมันตภาพรังสีเพื่อระบุชนิดของระเบิดที่ใช้ทดสอบ แต่จากการอ่านค่าแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิดแล้ว ระเบิดลูกนี้มีพลังไม่เกิน 10,000 ตันทีเอ็นที เล็กกว่าระเบิดปรมาณูที่สหรัฐฯ ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก และห่างไกลจากอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์ ที่สร้างแรงระเบิดได้นับล้านตันทีเอ็นทีด้วย

แต่ไม่ว่าระเบิดที่ใช้ในเหตุการณ์นี้จะเป็นปรมาณูหรือไฮโดรเจน การกระทำของเกาหลีเหนือเป็นการแสดงความยั่วยุ และละเมิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ได้จัดการประชุมฉุกเฉิน และเตรียมออกมาตรการใหม่เพื่อลงโทษรัฐบาลเปียงยางแล้ว

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top